ตัวอย่างคำกล่าวของผู้อวยพร
ตัวอย่างที่ 1
ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย (ผม ……. หรือ ดิฉัน …….) รู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้รับเชิญมาร่วมในงาน มงคลสมรสของ ……. ในวันนี้ และ (ผมหรือดิฉัน) รู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงยิ่งไปกว่านี้ คือ ได้เห็นเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่างมีความรักใคร่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างแน่วแน่ ตัดสินใจร่วมครองรักครองชีวิต เป็นทองแผ่นเดียวกัน จึงได้เข้าสู่พิธีมงคลสมรสร่วมรับหยาดน้ำสังข์ และครอบสายสิญจน์มงคลเส้นเดียวกันในวันนี้ พูดถึงความรักของหนุ่มสาวในสมัยปัจจุบันนี้ ดูออกจะเป็นการยากอยู่ไม่น้อยที่จะประคับประคองให้ ดำรงมั่นจนถึงวันแต่งงาน ส่วนมากมักจะลงเอย ด้วยความใคร่แทบทั้งสิ้น แต่ (ผมหรือดิฉัน) ก็แสนที่จะปิติยินดี เมื่อเห็นความรักของคนทั้งสองมิได้อยู่ในภาวะดังกล่าว หากแต่สามารถดำเนินมา อย่างราบรื่น จนถึงการแต่งงานได้ ฉะนั้น ผมขอถือโอกาสอันเป็นมิ่งมงคลนี้อวยพรให้คุณทั้งสองจงร่วมครองรัก ครองเรือนกันด้วยความสุขสดชื่น พรั่งพร้อมด้วยทรัพย์ศฤงคารอย่าให้มีอุปสรรคใดมาขวางกั้นให้นาวารักต้องสะดุดหยุดนิ่ง หรือแตกสลายก่อนถึงฝั่ง ขอให้คุณทั้งสอง ร่วมแรงร่วมใจรักใคร่ปรองดองช่วยกันทำนาวารักพุ่งไปสู่จุดหมายสมปรารถนา ในสิ่งอันเป็นยอดปรารถนาทุกประการ
ตัวอย่างที่ 2
ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพ เหนือสิ่งอื่นใด (ผมหรือดิฉัน) ปรารถนาที่จะขอพูดก่อนเลยว่า รู้สึกปลาบปลื้ม อย่างที่สุดที่ได้รับเกียรติ มาร่วมในวันอันเป็นมงคลยิ่งของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวในครั้งนี้ และสิ่งที่ (ผมหรือดิฉัน) จะพูดต่อไป ก็เห็นจะไม่มีสิ่งใดนอกไปกว่าความภาคภูมิใจ ที่ได้รับเกียรติมาอวยพรแด่เจ้าบ่าวเจ้าสาวในวันนี้ ซึ่งเป็นวันสำคัญที่สุดในชีวิตของคุณทั้งสอง เพราะจากวันนี้เป็นต้นไปทั้งสองจะต้องถือว่าได้ เป็นบุคคลคนเดียวกันแล้ว โดยสมบูรณ์ ปัจจุบันนี้คำว่าเพื่อนเป็นเพื่อนตายดูออกจะหายากสักหน่อย แต่ถ้าเราจะมองกันให้ซึ้ง และเข้าใจ ซึ่งกันและกันเป็นอย่างดีแล้ว จะพบว่าบุคคลที่สามารถจะเป็นเพื่อนตายกันได้เป็นอย่างดี ก็คือ สามีและภรรยาที่มีความเข้าใจต่อกันดีนั่นเอง และบัดนี้ท่านผู้มีเกียรติทุกท่านก็ได้ประจักษ์แล้วว่า ความรัก ความเข้าใจอันดีระหว่างคุณทั้งสองได้บรรลุสู่จุดมุ่งหมายแล้ว นั่นคือ การได้เข้าสู่พิธีมงคลสมรสในวันนี้ ถึงแม้วันเวลาจะล่วงเลยจากวันนี้ไปอีกสักกี่ปีก็ตาม ผมขอให้คุณทั้งสองจงรักใคร่ ถนอมน้ำใจ เอาใจใส่ซึ่งกันและกันเหมือนเช่นขณะที่เริ่มมีความรักต่อกันเช่นนี้ตลอดไป ฝ่ายหญิงก็อย่าถือตนว่าบัดนี้เธอเป็นสามีของฉันแล้วเธอจะต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำพูดของฉันเสมอ หากเจ้าสาวคนใดคิดเช่นนี้แล้ว ก็มักจะได้ความผิดหวังและเสียใจเสมอ เพราะแทนที่สามีจะเชื่อและปฏิบัติตาม กลับตรงกันข้าม คือ มีความรู้สึกเหมือนกับว่า การแต่งงานของเขานั้น เป็นเครื่องพันธนาการอันน่าเบื่อหน่าย ผู้ชายเราก็มักจะตายด้วยความอ่อนหวานน่ารัก ความเอาอกเอาใจของภรรยา ส่วนฝ่ายสามีก็อย่าได้ถือว่าเอาละตอนนี้เธอเป็นเมียฉันแล้ว ไม่จำเป็นต้องเอาอกเอาใจกันอีกต่อไปแล้ว เพราะถึงยัง ๆ เธอก็เป็นของตาย ของฉันวันยังค่ำ หากสามีคนไหนคิดเช่นนี้คงได้รับบทเรียนที่น่าเสียใจไปตลอดชีวิตเข้าสักวันหนึ่งจนได้ คือ ถูกภรรยาทิ้ง ถ้าสามีคนใดต้องการ ได้รับความอ่อนหวานต้องการการปรนนิบัติเอาใจใส่จากภรรยาอย่างจริงใจแล้วต้องหมั่นจีบเธอ คล้ายกับเมื่อครั้งรักกันใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพราะธาตุแท้ ของผู้หญิงนั้น ต้องการที่จะได้คำหวานคำชมจากสามีหรือคนรักอยู่ตลอดเวลา โดยไม่รู้สึกเบื่อหน่ายเลย เพราะความรักเป็นสิ่งที่มีชีวิตและวิญญาณ คู่สมรสต้องหมั่นทำนุบำรุงรักษาสม่ำเสมอทุกวัน ต้นรักจึงจะเจริญงอกงามแผ่ขยายกิ่งก้านสาขาผลิดอกออกผล เป็นที่น่าปลาบปลื้มใจตลอดไป และ (ผมหรือดิฉัน) ขอถือโอกาสอันเป็นมงคลนี้อันเชิญคุณพระศรีรัตนตรัยอันศักดิ์สิทธิ์ได้โปรดดลบันดาลให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวทั้งสอง จงประสบแต่ความสุขสดชื่น หอมหวน ทุกทิวาราตรีกาลตราบชั่วฟ้าดินสลาย
ตัวอย่างที่ 3
ท่านที่เคารพทั้งหลาย พิธีมงคลสมรสอันสมเกียรติของเจ้าบ่าวเจ้าสาวในวันนี้ ได้จัดทำลงไปอย่างน่า สรรเสริญปิติยินดี (ผมหรือดิฉัน)มีความรู้สึกว่าได้รับเกียรติอันสูง และอิ่มเอมใจอย่างที่สุดอีกครั้งหนึ่ง นอกจากได้รับเกียรติอันนี้แล้ว ยังได้รับเกียรติให้ขึ้นกล่าวคำอวยพร แก่เจ้าบ่าวเจ้าสาวอีก ซึ่งพรอมกันนี้ (ผมหรือดิฉัน) ขออวยพรให้คู่สมรสทั้งสองจงประสบสิ่งที่หวังตั้งใจไว้ทุกประการไม่ว่า จะมีมารหรือสิ่งใดมาราวีขัดขวาง จงได้พ่ายแพ้ไปสิ้น สามารถฟันฝ่าอุปสรรค ขวากหนามต่าง ๆ จนสามารถดำเนิน ชีวิตไปถึงจุดหมายที่ เขาทั้งสองได้ตั้งใจไว้ ขอให้สมด้วยจตุพิตพรชัย มั่งมีด้วยลาภยศ สรรเสริญ มีชีวิตครอบครัว ที่ผาสุข ตลอดไป ขอบคุณครับ(ค่ะ)
ตัวอย่างที่ 4
ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย (ผม ……. หรือ ดิฉัน …….) รู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้รับเชิญมาร่วมในงาน มงคลสมรสของ ……. ในวันนี้ และ (ผมหรือดิฉัน) รู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงยิ่งไปกว่านี้ วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่คุณพ่อ คุณแม่ ของเจ้าบ่าวเจ้าสาว จะมีความสุขและอบอุ่นใจ ไม่น้อย ที่ได้มีชีวิตยืดยาวมาจนถึงวันสำคัญของบุตร ไม่มี ความสุขใดที่จะเป็นสุขเท่าเมื่อพ่อและแม่ได้เห็นลูกมีความสุข ในวัยเด็กนั้นพ่อแม่ทุกคน จะปลาบปลื้มภาคภูมิใจเมื่อได้เห็นลูกของตนแสดงความเก่งกล้าเฉลียวฉลาด เฝ้าทะนุถนอมเอาใจใส่ ครั้งเติบใหญ่เจริญวัยขึ้นก็คอยชี้แนะช่องทาง ของการดำเนินชีวิตอันรุ่งโรจน์สดใสให้เดิน การที่ทั้งสองตัดสินใจเข้าสู่พิธีมงคลสมรสมอบร่างกายสละชีวิตจิตใจให้ต่อกันในวันนี้ นับว่าเป็นนิมิตหมาย อันดียิ่ง เป็นการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ เป็นการเตรียมตัวไปสู่การเป็นพ่อแม่ที่ดี น่าเคารพเทิดทูนบูชาต่อไปในอนาคต ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างความรัก สร้างฐานะให้เป็นปึกแผ่นมั่นคง ยิ่งขึ้น กระผม (ดิฉัน)ขอถือโอกาสนี้ฝากข้อคิดเพื่อเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตด้วยคาถา “หัวใจเศรษฐี” 4 ข้อ คือ
1. อุฏฐานะสัมปะทา คือ การถึงพร้อมด้วยความขยันหมั่นเพียร ไม่เกียจคร้านในการทำมาหาเลี้ยงชีพ ไม่ นอนรอคอยโชคชะตา
2. อารักขะสัมปะทา คือ การถึงพร้อมด้วยการรักษาทรัพย์ที่หามาได้ไม่สุลุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือย ไม่เล่นการพนัน โดยเฉพาะรู้จักใช้ในทางที่ถูกที่ควร
3. กัลยาณมิตรตะตา คือ การรู้จักคบคนดีเป็นเพื่อน ไม่คบเพื่อนเป็นนักเลงเที่ยวผู้หญิง เสพสุราเล่นการ พนัน เลือกคบแต่คนที่แนะนำไปในทางที่ดี
4. สะมะชีวิตา คือ การรู้จักประมาณตนเองในการครองชีพ มีน้อยใช้แต่น้อย ไม่ฟุ้งเฟ้อและเป็นหนี้สินเขา หัวใจเศรษฐีทั้ง 4 ประการนี้ รวมเรียกสั้น ๆ เพื่อง่ายต่อการจดจำก็คือ “อุอากะสะ” กระผม (ดิฉัน)มั่นใจว่า หากทั้งสองปฏิบัติได้ทั้ง 4 ข้อนี้ ก็เชื่อว่าชีวิตการครองเรือนของทั้งสองจะประสบแต่ความเจริญรุ่งเรือง ภายในอนาคตอย่างแน่นอน ขออวยพรให้คู่บ่าวสาว จงพบประสบสุข ในชีวิตครองเรือนตลอดไป… ขอขอบพระคุณครับ …..
ตัวอย่างที่5
ท่านเจ้าภาพ คู่บ่าวสาว และท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน
ดิฉันรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมากล่าวอวยพรในงานมงคลสมรสของคุณหล่อล้ำและคุณโฉมงาม
คุณโฉมงามเจ้าสาวแสนสวยในวันนี้เป็นลูกศิษย์ของดิฉันตั้งแต่เรียนระดับ ปวช.ถึงปวส.เป็นเวลา๕ปี เนื่องจากคุณโฉมงามเป็นคนตั้งใจเรียน เรียนเก่ง มีมนุษยสัมพันธ์ดีเพื่อนฝูงยอมรับในความสามารถจึงได้รับคัดเลือกให้หัวหน้าชั้นและนายกองค์การบริหารธุรกิจต่อมา จากความมีน้ำใจ ขยันหมั่นเพียรมีความรับผิดชอบสูง จึงได้รับความรักใคร่ไว้วางใจจากครูบาอาจารย์ตลอดมา เมื่อเรียนจบก็ได้ทำงานที่มั่นคงและก้าวหน้า คุณหล่อล้ำเป็นคนโชคดีมากที่ได้เพชรเม็ดงามเช่นนี้ไปครอบครอง
ดิฉันขอฝากข้อคิดในการครองชีวิตคู่ว่า ความรักคือความเข้าใจและการให้อภัยการใช้ชีวิตร่วมกันย่อมมีกระทบกระทังกันบ้างเสมือนลิ้นกับฟัน ก็ควรชักถาม พูดคุยกันด้วยเหตุผล อย่าใจร้อนวู่วามทำความเข้าใจกันในทุกเรื่อง อย่าเก็บเอาไว้ให้ขุ่นเคืองใจกัน มีความผิดพลาดไปบ้างก็ให้อภัยแก่กัน
สุดท้ายนี้ฉันขออวยพรให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจงครองรักกันด้วยความราบรื่นมีชีวิตที่สมบูรณ์พูนสุขชั่วกาลนาน
ขอบคุณภาพสวยๆ จาก : www.loveubonstudio.com